กระจกนิรภัยคุณภาพของทัศนวิสัย

กระจกนิรภัยคุณภาพของทัศนวิสัย

การขับรถยนต์ต้องใช้สติและความรอบคอบเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย หากคุณมีสติและความรอบคอบตลอดเวลาจะกระตุ้นให้คุณสังเกตความผิดปกติและหาแนวทางหลีกเลี่ยงอันตรายได้รวดเร็วมากขึ้น การสังเกตทัศนวิสัยที่รถยนต์เคลื่อนผ่านจะช่วยลดการเกิดเหตุร้ายได้ สิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการมองทัศนวิสัยคือกระจกนิรภัยของรถยนต์ที่ติดตั้งทั้ง 4 ด้าน การติดฟิล์มกรองแสงช่วยรักษาสายตาแต่อาจส่งผลต่อทัศนวิสัยที่มองผ่านกระจกนิรภัย ดังนั้น ควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่ดีและเปลี่ยนเมื่อหมดสภาพการใช้งาน

บางครั้งปัญหาด้านทัศนวิสัยไม่ได้เกิดขึ้นจากฟิล์มกรองแสงแต่เป็นเพราะกระจกรถยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นกระจกรถยนต์ที่ไม่ควรผ่าน QC แม้แต่กระจกเดิมถูกกระแทกรุนแรงจนเสียประสิทธิภาพไป ก็ควรเปลี่ยนกระจกนิรภัยบนรถยนต์เพื่อรักษาคุณภาพในการมองทัศนวิสัยรอบคันรถดีกว่า การคัดสรรกระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์ก็ควรเลือกที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน ซึ่งกระจกนิรภัยในปัจจุบันแบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่

กระจกนิรภัยแบบเทมเปอร์ (Tempered Glass) ที่นิยมติดตั้งบริเวณด้านข้างและด้านหลังของรถยนต์ จุดเด่นคือเมื่อกระจกแตก เนื้อกระจกจะแตกเป็นเม็ดขนาดเล็กคล้ายเม็ดข้าวโพดซึ่งลดความแหลมคมได้มาก จุดด้อยคือคุณภาพทัศนวิสัยที่ลดลงเพราะการกระจายตัวของกระจกที่แตกทำให้ขุ่นมัวมองภายนอกได้ยาก

กระจกนิรภัยแบบลามิเนต (Laminated Glass) นิยมติดตั้งบริเวณด้านหน้าของรถยนต์ เพราะการผลิตด้วยกระจกสองแผ่นประกบซ้อนกันโดยมีแผ่นฟิล์มเหนียวตรงกลางที่ยึดกระจกทั้งสองแผ่นเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ขับรถยนต์มองเห็นทัศนวิสัยภายนอกได้ดีเมื่อกระจกแตก เพราะเมื่อได้รับแรงกระแทกรุนแรงที่ทำให้เนื้อกระจกแตกจะไม่ส่งต่อรอยร้าวทั่วทั้งบานกระจกนิรภัย และสร้างบาดแผลแก่ร่างกายมนุษย์ได้น้อยลงเพราะมีฟิล์มช่วยยึดเนื้อกระจกไว้

กระจกทั้ง 2 ประเภทยังนิยมใช้ในอาคารขนาดใหญ่ อาทิ ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน เป็นต้น เพื่อต้องการลดความอึดอัดของบรรยากาศภายในพื้นที่เล็ก ๆ และคับแคบ การใช้กระจกแทนผนังปูนจึงเป็นสิ่งที่แก้ปัญหาได้ แต่ควรเลือกกระจกที่เหมาะสมกับพื้นที่โดยรอบด้วย